LACIMBALI
"กว่า 100 ปี แห่งความสำเร็จ"
ในปี พ.ศ. 2455 Giuseppe Cimbali เปิดร้านแปรรูปทองแดงในใจกลางเมืองมิลาน และในปี พ.ศ. 2473 เริ่มผลิตเครื่องชงกาแฟยี่ห้อ LaCimbali (Rapida) เป็นเครื่องชงกาแฟตัวแรกที่ผลิตขึ้น ถูกดีไซน์ให้เป็นแนวตั้ง และได้ตั้งชื่อเครื่องนี้ว่า "column machines" ตัวเครื่องต้องใช้เชื้อการทำความร้อนจากถ่าน หรือไม้ ในปี พ.ศ. 2488 ได้เปิดตัวเครื่องชงกาแฟที่มีหม้อต้ม 2 หม้อต้ม ชื่อว่า "Albadoro" รุ่นนี้ยังมีหัวชงมากถึง 6 หัวชง และเป็นครั้งแรกของ Lacimbali ที่วางหัวชงไว้ด้านหน้าตัวเครื่องชงกาแฟ ในอีก 2 ปีต่อมา Lacimbali ได้มีการเปิดตัวเครื่องชงกาแฟแบบคันโยก เป็นครั้งแรก ในรุ่น Ala, Gioiello และ Brillante ในปี พ.ศ. 2498 ได้มีการจดสิทธิบัตรของเทคโนโลยี "the hydraulic group" เป็นหัวชงไฮดรอลิกแทนแรงดันสปริงคันโยก ซึ่งมีแรงดันสูงถึง 9 บาร์ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 Cimbali เริ่มทดลองทำเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเครื่องแรก สร้างขึ้นเพื่อใช้ในบาร์เท่านั้น
ปี พ.ศ. 2526 LaCimbali เปิดตัว ET ซึ่งเป็นเครื่องชงกาแฟอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกขึ้น (ออกแบบโดย Matzunaga) M39 TE เปิดตัวเครื่องชงกาแฟอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ที่สามารถเชื่อมต่อระบบ Wifi และ Bluetooth ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีทำให้ Turbosteam Milk4 มีความโดดเด่น ในปี พ.ศ. 2555 Gruppo Cimbali ฉลองครบรอบ 100 ปีของกิจกรรมด้วยการเปิดตัว "MUMAC" ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่รวบรวมเครื่องชงกาแฟ และชิ้นส่วนต่างๆมากกว่า 200 ชิ้น เป็นงานแสดงเครื่องชงกาแฟระดับมืออาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2561 เปิดตัว Technology Heart Heart Human Mind โดยเป็นพื้นที่แห่งประสบการณ์ที่รวบรวมสิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยี การออกแบบ แสดงถึงความเป็นเอกลักรณ์ของแบรนด์ และปัจจุบันแบรนด์ Lacimbali ก็ได้รับความนิยมและได้มีการรับรองจากหลายๆองค์กรว่าเป็นแบรนด์ที่ดีและมีคุณภาพ ไม่แพ้แบรนด์อื่น
