กว่าจะมาเป็นกาเเฟสักเเก้วต้องผ่านกี่ขั้นตอน

730 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กว่าจะมาเป็นกาเเฟสักเเก้วต้องผ่านกี่ขั้นตอน

ขั้นตอนการทำกาเเฟสักเเก้วเเละเจาะถึงรายละเอียดคราวๆกันคะ


(เชอรี่กาแฟ → เเปรรูปหลังจากการเก็บเกี่ยว(กะลา) → สารกาเเฟ → คั่ว → บด → สกัดลงเเก้ว)

  • 1.เชอรี่กาแฟ
อย่างเเรกเราต้องพูดถึงผลกาเเฟหรือเชอร์รี่กาเเฟ เมล็ดกาเเฟที่พบเห็นตามร้านกาเเฟนั้นเป็นผลจากเชอร์รี่กาเเฟ เป็นสกุลกาแฟ หรือ coffea อยู่ในราชวงศ์ Rubiaceae เป็นไม้ยืนพุ่มหรือไม้ยืนต้น ส่วนใหญ่นั้นจะมีหลากหลายพันธุ์โดยผลที่ได้ก็จะมีรูปร่างต่างกัน เช่นต้นบางชนิดจะมีผลเชอร์รี่ทรงรีสีเเดง หรือ สีเหลืองทรงกลม เเต่ไม่ว่าจะเเตกกันอย่างไรเเล้วภายในของเชอร์รี่ยังมีส่วนประกอบหลักที่เหมือนกัน

  • 2.เเปรรูปหลังจากการเก็บเกี่ยว(กะลา)
หลังจากที่เราเก็บผลสุกของกาเเฟจากต้นเเล้ว ต้องทำทันทีหลังจากเก็บเกี่ยวเนื่องป้องกันการเน่าเสียของเมล็ดได้ หลักจะมีอยู่ 2 วิธี
  • Dry Processing
วิธีนี้เราจะเอาผลเชอร์รี่มาเทลงน้ำจากนั้นให้นำผลที่ลอยน้ำออกไปทิ้ง เนื่องจากอาจจะโดนเเมลงเจาะหรืออาจจะผลที่สุกเกินไปหรือผลที่เเห้งจนเกินไป จากนั้นให้นำผลกาเเฟที่จมน้ำไปตากเเดดในพื้น ลาน ที่โล่งกว้าง ระยะเวลาอยู่ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์
  • Wet Processing
หลังจากที่ได้ผลกาเเฟมาเเล้วเราจะต้องนำเปลือกออกโดยนำเข้าเครื่องกะเทาะเปลือก จากนั้นไห้นำมาพักไว้ประมาณ 6-15 ชั่วโมง จากนั้นก็นำมาล้างให้สะอาดประมาณ 4 - 5 รอบหรือจนกว่าน้ำที่ล้างจะใสเเละในระหว่างที่ล้างก็นำเมล็ดที่ลอยออกเพราะมันเป็นเมล็ดที่รีดหรือเสียนั้นเอง จากนั้นก็นำเมล็ดไปตากให้เเห้งโดยเกลี่ยให้กระจาย เเละหมั้นพลิกหน้าอยู่เสมอเพื่อป้องกันการขึ้นรา ใช้เวลาในการตากประมาณ 2 - 3 สัปดาห์
จนได้กะลากาเเฟออกมาคะ

  • 3.สารกาเเฟ
หลังจากที่ผ่านกระบวนการเเปรรูปมาเเล้วเราก็จะได้ กาเเฟกะลา จากนั้นเราต้องนำมากะลามาลอกเปลือกออกหรือสีออกจากนั้นเราจึงจะได้กาเเฟสารมาเเละรูปร่างลักษณะจะต่างกัน หากเป็นกาเเฟสารฤดูใหม่ควรจะมีผิวตึงสีเขียวเข้มคล้ายมรกตเสมอกัน เเข็งคล้ายกันเมล็ดถั่วเหลือง

  • 4.คั่วกาเเฟ
หลังจากที่ได้กาเเฟสารากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการคั่วโดยเราสามารถเเบ่งระดับการคั่วออกได้ 3 ระดับ คือ อ่อน กลาง เข้ม โดยรสชาติกาเเฟที่ได้ก็จะเเตกต่างกันตามกัน
คั่วอ่อน รสชาติจะติดเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นผลไม้นิดๆ นุ่มคอ ดื่มง่าย
คั่วกลาง รสชาติที่ได้จะเปรี้ยวเล็กน้อยมีกลิ่นนัตตี้นิดๆ ตัวบอดี้เริ่มเข้มขึ้น
คั่วเข้ม รสชาติที่ได้จะไม่มีความเปรี้ยวหวานเเต่จะมีกลิ่นติดไหม้นิดๆ ตัวบอดี้จะถึงว่าเข้มที่สุด

  • 5.การบดกาเเฟ
หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนบดเมล็ดกาเเฟให้ละเอียดตามระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บดหยาบ บดกลาง บดละเอียดมาก ปริมาณการบดกาเเฟในหนึ่งช็อตจะอยู่ที่ 7 กรัมในเมูนร้อน เเละในเมนูเย็นจะอยู่ที่ 15 - 20 กรัม
ซึ่งความละเอียดในการบดเมล็ดกาเเฟก็จะสามารถเเบ่งตามประเภทของการชงได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น ชงเเบบ frech press ก็จะเหมาะกับเมล็ดกาเฟที่บดหยาบ หรือ การบดเเบบละเอียดมากจะเหมาะกับเครื่องชงกาเเฟ Espresso เป็นใช้เเรงดันในการสกัด เป็นต้น

  • 6.การสกัดกาเเฟด้วยเครื่องชงกาเเฟสด Espresso machine
หลังจากที่เราได้กาเเฟบด เเล้วให้นำเข้าเครื่องสกัดกาเเฟสดโดยผ่านเเรงดันจากเครื่องสกัดกาเเฟจะอยู่ประมาณ 8 - 10 บาร์ ในเครื่องชงกาเเฟขนาดใหญ่ จากนั้นเราก็มาสร้างสรรค์เมนูกาเเฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกาโน่ ล้าเต้ หรือ คาปูชิโน่

หากบทความในข้างต้นมีข้อผิดผลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้