422 จำนวนผู้เข้าชม |
ยิ่งรู้จักชา เราจะยิ่งหลงรักการดื่มชา
เพราะชาไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่มธรรมดา มันคือการผสมผสานของรสชาติ กลิ่นหอมและความประณีตในการชง ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ชาทุกชนิดมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป
1. มัทฉะ (Matcha)
เป็นชาเขียวชนิดผงที่ได้รับความนิยมสูง มัทฉะเป็นชาเขียวที่มีลักษณะเฉพาะตัวและมีกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน ซึ่งทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างจากชาเขียวชนิดอื่นๆ ตัวมัทฉะจะมีรสชาติที่เข้มข้น มีรสขมผสมหวานจากธรรมชาติของชาและมีกลิ่นหอมสดชื่นที่เป็นเอกลักษณ์
2. โฮจิฉะ (Hojicha)
เนื่องจากกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากชาเขียวทั่วไป เพราะโฮจิฉะถูกคั่วจนเกิดกลิ่นหอม ทำให้มันมีรสชาติที่แตกต่างจากชาเขียวอื่นๆ ตัวโฮจิฉะจะมีรสชาติที่นุ่มนวลและไม่ขมเหมือนชาเขียวทั่วไปมีรสหวานธรรมชาติและกลิ่นหอมคล้ายถ่านหรือข้าวคั่ว ทำให้มีความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายเมื่อได้ดื่ม
3. เกนไมฉะ (Genmaicha)
เป็นชาเขียวที่ผสมกับข้าวคั่ว มีรสชาติที่กลมกล่อมเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสขมของชาเขียว มีกลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติ ได้รสชาติที่อบอุ่นและนุ่มนวล ชาชนิดนี้มีรสชาติคล้ายถั่ว ตัวใบชาจะให้กลิ่นที่คล้ายใบหญ้า สีของเก็นไมฉะจะไม่ได้มีสีน้ำตาลเหมือนสีข้าวคั่ว และก็ไม่ได้เขียวจนเท่ากับสีใบชาเขียว แต่เก็นไมฉะเมื่อชงแล้วจะมีสีเหลืองทองสุก มีปริมาณคาเฟอีนต่ำทำให้สามารถดื่มได้ทุกที่ทุกเวลา
4. เซนฉะ (Sencha)
เป็นชาที่ได้รับความนิยมดื่มในประเทศญี่ปุ่น รสชาติค่อนข้างหวาน ทำจากใบชาที่สดใหม่และถูกตากแห้งโดยไม่ผ่านการหมัก ซึ่งทำให้ชามีรสชาติสดชื่นและมีความขมเล็กน้อยมีสีเขียวสดใสเมื่อชง เซนฉะมักจะถูกนำไปชงโดยการใส่ใบชาลงในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส และการชงไม่ควรใช้เวลานานเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ชามีรสขม
5. เกียวคุโระ (Gyokuro)
เป็นชาญี่ปุ่นที่มักจะดื่มในชีวิตประจำวันในประเทศญี่ปุ่น และถือเป็นชาเขียวที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าเซนฉะหรือเกียวคุโระ
6.บันฉะ (Bancha)
เป็นชาที่มีรสชาติที่เรียบง่ายและไม่ขม ซึ่งเกิดจากการเก็บชานอกฤดูกาล เป็นใบชาที่เก็บก่อนต้นชาจะแตกยอดใหม่ หรือ เป็นใบชาที่มีขนาดไม่ได้ตามมาตรฐาน นำมารวมกันผ่านกระบวนการต่างๆ จนได้มาเป็นชาบันฉะ ที่มีรสชาติอ่อน สีออกไปทางเหลืองอมเขียว รสฝาดกว่าชาชนิดอื่น อีกทั้งมีกลิ่นเฉพาะตัวของชาไม่หอมเท่าประเภทอื่น
เมื่อเราเข้าใจความแตกต่างและคุณสมบัติของชาแต่ละประเภท เราก็จะยิ่งหลงรักและรู้สึกเชื่อมโยงกับการดื่มชาองค์ประกอบต่างๆ ล้วนถ่ายทอดเรื่องราวและวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนาน ชาจึงไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม หากแต่เป็นช่วงเวลาแห่งความสงบ เป็นบทสนทนาเงียบๆ ระหว่างเราและธรรมชาติ