1244 จำนวนผู้เข้าชม |
ในยุคที่ใคร ๆ ก็ต้องการพลังงานและสมาธิในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการตื่นเช้าไปทำงาน ประชุมยาวตั้งแต่เช้าจรดเย็น หรือแม้แต่การอ่านหนังสือเตรียมสอบ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน กลายเป็นหนึ่งในผู้ช่วยสำคัญที่หลายคนเลือก ในขณะที่หลายคนมักเลือกกาแฟเป็นตัวเลือกหลักในการกระตุ้นสมองและร่างกาย อีกกลุ่มหนึ่งกลับหันไปหา มัทฉะ ชาเขียวผงจากญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮลตี้และให้พลังงานอย่างนุ่มนวลแทน คำถามคือ!! แม้ทั้งสองจะมีคาเฟอีนเหมือนกัน แต่ทำไมเมื่อดื่มแล้วกลับ รู้สึกไม่เหมือนกัน บางคนดื่มกาแฟแล้วใจเต้นแรง มือสั่น แต่เมื่อดื่มมัทฉะแล้วกลับรู้สึกสงบ ตื่นตัวได้นานจนน่าประหลาดใจ นั่นเป็นเพราะ คาเฟอีนในกาแฟ กับ คาเฟอีนในมัทฉะ อาจมาจากธรรมชาติเหมือนกันก็จริง แต่การทำงานในร่างกายนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งในเรื่องของ ความเร็วในการออกฤทธิ์, ผลกระทบต่อระบบประสาท, ระยะเวลาการตื่นตัว ไปจนถึงความรู้สึกโดยรวมหลังดื่ม
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกไปยังโลกของคาเฟอีนทั้งสอง พร้อมอธิบายอย่างเข้าใจง่ายว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังความแตกต่างนี้บ้าง และสุดท้ายคุณจะรู้ว่าระหว่างกาแฟกับมัทฉะ แก้วไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน
แม้ว่าทั้งกาแฟและมัทฉะ จะมีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบหลักที่ทำให้เรารู้สึก สดชื่น ตื่นตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว คาเฟอีนจากทั้งสองแหล่งนี้ ส่งผลต่อร่างกายต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในด้านความเร็วในการออกฤทธิ์ ความรู้สึกหลังดื่ม และระยะเวลาที่พลังงานอยู่กับเรา
กาแฟโดยเฉพาะเอสเปรสโซหรือกาแฟดำ 1 แก้ว มักมีปริมาณคาเฟอีนที่สูง ซึ่งเพียงพอที่จะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางภายในเวลาไม่ถึง 30 นาทีหลังดื่ม คุณจะรู้สึกว่า ตื่นทันที หัวแล่น ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พร้อมทำงานหรือออกกำลังกาย
แต่ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยก็คือ
คนที่ดื่มกาแฟแล้วใจสั่นบ่อย ๆ อาจต้องพิจารณาลดปริมาณหรือหาทางเลือกอื่นที่ส่งผลเบากว่าต่อร่างกาย
ผลที่คุณจะรู้สึกหลังดื่มมัทฉะคือ:
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากรู้ว่า กาแฟหรือมัทฉะดีกว่ากัน? คำตอบก็คือ ไม่มีคำตอบตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องรู้จักตัวเอง ว่าร่างกายตอบสนองต่อคาเฟอีนแบบไหน แล้วเลือกเครื่องดื่มที่ ไม่เพียงแต่ให้พลังงาน แต่ต้องสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วย