36 จำนวนผู้เข้าชม |
กาแฟ VS มัทฉะ คาเฟอีนเหมือนกันแต่แตกต่างกันอย่างไง?
ในยุคที่ใคร ๆ ก็ต้องการพลังงานและสมาธิในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการตื่นเช้าไปทำงาน ประชุมยาวตั้งแต่เช้าจรดเย็น หรือแม้แต่การอ่านหนังสือเตรียมสอบ “เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน” กลายเป็นหนึ่งในผู้ช่วยสำคัญที่หลายคนเลือก ในขณะที่หลายคนมักเลือกกาแฟเป็นตัวเลือกหลักในการกระตุ้นสมองและร่างกาย อีกกลุ่มหนึ่งกลับหันไปหา “มัทฉะ” ชาเขียวผงจากญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮลตี้และให้พลังงานอย่างนุ่มนวลแทน คำถามคือ!! แม้ทั้งสองจะมีคาเฟอีนเหมือนกัน แต่ทำไมเมื่อดื่มแล้วกลับ “รู้สึกไม่เหมือนกัน” บางคนดื่มกาแฟแล้วใจเต้นแรง มือสั่น แต่เมื่อดื่มมัทฉะแล้วกลับรู้สึกสงบ ตื่นตัวได้นานจนน่าประหลาดใจ นั่นเป็นเพราะ “คาเฟอีนในกาแฟ” กับ “คาเฟอีนในมัทฉะ” อาจมาจากธรรมชาติเหมือนกันก็จริง แต่การทำงานในร่างกายนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งในเรื่องของ ความเร็วในการออกฤทธิ์, ผลกระทบต่อระบบประสาท, ระยะเวลาการตื่นตัว ไปจนถึงความรู้สึกโดยรวมหลังดื่ม
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกไปยังโลกของคาเฟอีนทั้งสอง พร้อมอธิบายอย่างเข้าใจง่ายว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังความแตกต่างนี้บ้าง และสุดท้ายคุณจะรู้ว่าระหว่างกาแฟกับมัทฉะ “แก้วไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน”
แม้ว่าทั้งกาแฟและมัทฉะ จะมีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบหลักที่ทำให้เรารู้สึก “สดชื่น ตื่นตัว” แต่ในความเป็นจริงแล้ว คาเฟอีนจากทั้งสองแหล่งนี้ ส่งผลต่อร่างกายต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในด้านความเร็วในการออกฤทธิ์ ความรู้สึกหลังดื่ม และระยะเวลาที่พลังงานอยู่กับเรา
คาเฟอีนในกาแฟ: พลังพุ่งไว แต่อาจทำให้ใจสั่น
กาแฟโดยเฉพาะเอสเปรสโซหรือกาแฟดำ 1 แก้ว มักมีปริมาณคาเฟอีนที่สูง ซึ่งเพียงพอที่จะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางภายในเวลาไม่ถึง 30 นาทีหลังดื่ม คุณจะรู้สึกว่า “ตื่นทันที” หัวแล่น ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พร้อมทำงานหรือออกกำลังกาย
แต่ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยก็คือ
- ใจสั่น มือสั่น
- ปวดท้องหรือแสบท้อง (โดยเฉพาะถ้าดื่มตอนท้องว่าง)
- อารมณ์แกว่งหลังจากหมดฤทธิ์คาเฟอีนใน 3-4 ชั่วโมง
คนที่ดื่มกาแฟแล้วใจสั่นบ่อย ๆ อาจต้องพิจารณาลดปริมาณหรือหาทางเลือกอื่นที่ส่งผลเบากว่าต่อร่างกาย
คาเฟอีนในมัทฉะ: พลังงานปล่อยช้า ตื่นนาน สมาธิดี
มัทฉะเป็นชาเขียวบดละเอียดจากญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วย L-theanine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยให้จิตใจสงบและโฟกัสได้ดี แม้มัทฉะ 1 แก้วจะมีคาเฟอีนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกาแฟ แต่การทำงานของมันมีความพิเศษกว่า เมื่อ L-theanine ทำงานร่วมกับคาเฟอีน มันจะช่วยให้พลังงานถูกปล่อยออกมา “ช้าๆ แต่สม่ำเสมอ” ส่งผลให้รู้สึกตื่นตัวโดยไม่มีความกระวนกระวาย ไม่มีอาการใจสั่นหลังดื่ม
ผลที่คุณจะรู้สึกหลังดื่มมัทฉะคือ:
- ตื่นตัวแบบสงบ ไม่พุ่งพล่าน
- โฟกัสได้ดีขึ้น มีสมาธิ
- เหมาะกับคนทำงานหน้าคอม งานใช้สมอง หรืออ่านหนังสือ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากรู้ว่า “กาแฟหรือมัทฉะดีกว่ากัน?” คำตอบก็คือ ไม่มีคำตอบตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือ “เราต้องรู้จักตัวเอง” ว่าร่างกายตอบสนองต่อคาเฟอีนแบบไหน แล้วเลือกเครื่องดื่มที่ “ไม่เพียงแต่ให้พลังงาน แต่ต้องสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วย”