434 จำนวนผู้เข้าชม |
Coffee Tastes Bitter ? The Truth Behind It.
ทำไมรสชาติของกาแฟถึงขม ?
ความขมของกาแฟเกิดจากหลายปัจจัย ตั้งแต่สายพันธุ์ การคั่ว จนถึงวิธีการชงแต่เมื่อเราเข้าใจองค์ประกอบเหล่านี้มากขึ้น เราก็จะสามารถแยกแยะความขมแบบมีคุณภาพออกจากความขมที่ไม่พึงประสงค์ได้
1. เพราะกาแฟมีสารจากธรรมชาติที่มีรสขม
ในเมล็ดกาแฟมีสารสำคัญหลายชนิดที่มี “รสขม” โดยธรรมชาติ เช่น
- คาเฟอีน (Caffeine): ให้รสขมบางๆ แฝงอยู่ในรสชาติปลายลิ้น
- คลอโรจีนิกแอซิด (Chlorogenic Acids): สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟที่ให้รสเปรี้ยวขมเล็กน้อยและแตกตัวเป็นสารขมยิ่งขึ้นเมื่อโดนความร้อน
- ฟีนอล (Phenolic Compounds): ให้กลิ่นหอมและรสสัมผัสที่นุ่มลึก ผสานกับความขมบางเบา ที่เติมมิติให้ทุกแก้วได้อย่างกลมกล่อม
สารเหล่านี้ทำให้ “ความขม” กลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกาแฟมากกว่าจะเป็นข้อเสีย
และความขมก็ขึ้นอยู่กับ "สายพันธุ์" ของเมล็ดกาแฟ ซึ่งมีอยู่หลักๆด้วยกัน 2 สายพันธุ์
- อราบิก้า (Arabica): คาเฟอีนต่ำกว่า รสชาติมีความนุ่มละมุนกว่า กลิ่นซับซ้อน ขมน้อย
- โรบัสต้า (Robusta): คาเฟอีนสูงกว่า มีรสขมที่โดดเด่น กลิ่นคั่วแรง
2. ระดับการคั่วตัวแปรสำคัญที่กำหนด “ความขม” ของกาแฟ
กาแฟหนึ่งถ้วยจะมีรสชาติแบบไหน? คำตอบไม่ได้อยู่แค่ที่สายพันธุ์หรือแหล่งปลูก แต่ยังขึ้นอยู่กับ "ระดับการคั่ว" (Roast Level) ซึ่งมีผลชัดเจนต่อกลิ่น รสชาติ และ ความขม ของกาแฟด้วยเช่นกัน และยิ่งถ้าหากเป็นกาแฟคั่วเข้ม จะยิ่งมีรสขมเพราะในกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟ เมื่อเมล็ดถูกให้ความร้อนสูงขึ้นน้ำตาลธรรมชาติ (Natural Sugars) และกรดบางชนิดภายในเมล็ด จะเริ่มเกิดปฏิกิริยาเคมี (MaillardReaction) และเปลี่ยนเป็น กลิ่นคั่วแบบถั่ว ช็อกโกแลต ไปจนถึงกลิ่นไหม้บางจุด ถ้ายังคั่วต่อจนถึงระดับ “คั่วเข้ม” (Dark Roast) ความหวานและกลิ่นผลไม้ในเมล็ดจะค่อย ๆ จางหายไปและกลายเป็นรสขมแบบหนักแน่นแทน
3. รู้ไหมว่ากาแฟขมอาจเกิดจาก “การชงผิดวิธี”
การชงกาแฟดูเหมือนจะง่าย แค่นำน้ำร้อนมาเทผ่านกาแฟแต่ในความจริงแล้ว "อุณหภูมิน้ำ" และ "ระยะเวลาในการสกัด" มีผลอย่างมากต่อรสชาติในถ้วย โดยเฉพาะเรื่องความขม ที่หลายคนคิดว่าเป็นความผิดของเมล็ดแต่แท้จริงอาจเป็นผลจากการชงที่ "ร้อนเกิน" หรือ "นานเกิน"
อุณหภูมิน้ำที่ร้อนเกิน = ดึงรสขมเกินพอดี
น้ำที่ร้อนเกิน 95°C จะเร่งปฏิกิริยาการสกัด (Extraction)ทำให้สารต่าง ๆ ในผงกาแฟถูกดึงออกมาเร็วเกินไป และมากเกินไปโดยเฉพาะสารคลอโรจีนิกแอซิด (Chlorogenic Acids) ที่เมื่อถูกความร้อนจัดจะสลายตัวกลายเป็นสารที่มีรสขมจัดผลที่ได้คือ กาแฟมีรสขมโดด ขาดความนุ่มลึกและมักมีกลิ่นไหม้แทรก
แช่นานเกินไป = Over-Extraction
ไม่ว่าจะเป็นการชงแบบดริป แช่ หรือ กด หากปล่อยให้น้ำสัมผัสกับกาแฟนานเกินไปก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Over-Extraction” คือการที่กาแฟถูกสกัดสารรสขมออกมา “เกินกว่าระดับที่เหมาะสม” ส่งผลให้รสชาติออกมา เข้มจัด ขมเฝื่อนและขาดความสดชื่น
4. คุณภาพของเมล็ดกาแฟส่งผลต่อ “รสขม” มากกว่าที่คิด
แม้ว่าความขมของกาแฟจะสามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น วิธีชงหรือระดับการคั่ว แต่หนึ่งในหัวใจสำคัญที่คนรักกาแฟไม่ควรมองข้ามคือ “คุณภาพของเมล็ดกาแฟ” เพราะแม้จะใช้วิธีชงที่ถูกต้องหรือคั่วอย่างประณีตแค่ไหน ถ้าเมล็ดกาแฟที่ใช้ไม่มีคุณภาพ ก็ยากที่จะได้รสชาติที่ดี
เมล็ดคุณภาพต่ำ มักให้รสขมแบบไม่พึงประสงค์
- เมล็ดที่เก็บไว้นานเกินไป โดยไม่มีการเก็บรักษาที่เหมาะสม
- เมล็ดที่มีสิ่งเจือปน เช่น เศษก้าน ใบ หรือเมล็ดที่เสีย
- เมล็ดที่ผ่านกระบวนการคั่วแบบอุตสาหกรรมราคาถูกหรือคั่วไหม้เพื่อกลบรสเสีย
เมล็ดในลักษณะเหล่านี้จะให้รสขมแบบ “แหลม” หรือ “เฝื่อน” ทิ้งค้างในลำคอ ไม่มีมิติของกลิ่นและมักแฝงกลิ่นไหม้ กลิ่นเหม็นหืนของไขมันที่เสื่อมสภาพ